วันนี้ (29 พ.ย. 64) เวลา 10.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานแถลงข่าวเปิดโครงการสร้างเชฟอาหารไทย by พม. (Professional Thai Chef by MSDHS) โดยมีนางจินตนา จันทร์บำรุง อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นายชุมพล แจ้งไพร เจ้าของสถาบันการอาหารไทย และเชฟ 2 ดาวมิชลิน และนางนภัสจิรา อิงคโรจน์ฤทธิ์ ผู้จัดการอาวุโสแผนกความยั่งยืนองค์กร โลตัส ร่วมแถลงข่าว ณ บริเวณโถงชั้น 1 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กทม.
นายจุติ กล่าวว่า กระทรวง พม. ได้ดำเนินภารกิจตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อการขับเคลื่อนงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงในชีวิตของกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ เด็กเยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ คนเร่ร่อนไร้บ้าน และผู้ด้อยโอกาสในสังคม ตลอดจนสถาบันครอบครัว เพื่อยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในสังคมคุณภาพ ซึ่ง
วันนี้ กระทรวง พม. โดย 2 หน่วยงาน ได้แก่ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) และการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้บูรณาการความร่วมมือกับภาคเอกชน ได้แก่ โลตัส และสถาบันการอาหารไทย ดำเนินโครงการสร้างเชฟอาหารไทย by พม. (Professional Thai chef by MSDHS)
ซึ่งโลตัสได้สนับสนุนเครื่องปรุง วัตถุดิบ อาหารแห้งสำหรับการประกอบอาหาร และสถาบันการอาหารไทยได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ และสอนทักษะ เทคนิคต่าง ๆ ในการประกอบอาหาร โดยมีเป้าหมายในการฝึกอบรมให้ทักษะ ความรู้ในการประกอบอาหารให้กับกลุ่มแม่และพ่อเลี้ยงเดี่ยว ผู้ว่างงานที่ถูกเลิกจ้างจากสถานการณ์โควิด - 19 ผู้ประสบปัญหาทางสังคม และผู้อยู่อาศัยในโครงการของ กคช. เพื่อนำไปประกอบอาชีพเชฟที่สามารถสร้างความมั่นคงด้านรายได้ในการดูแลตนเองและครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่พลิกโฉมประเทศไทย เป็นนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นมหาอำนาจทางวัฒนธรรม เราจะสร้างผู้ที่ไม่มีโอกาสได้เรียน ซึ่งเป็นอาชีพที่สุจริตและยั่งยืน โดยใช้วัตถุดิบของประเทศไทย ซึ่งทางเชฟชุมพลตั้งเป้าหมายที่จะสอนให้กับกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. จำนวน 1,000 คน ทั่วประเทศ
โดยกลุ่มแรกที่จะเข้าร่วมโครงการฯ มีการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมจากคณะกรรมการ จำนวน 100 คน ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่จะสร้างโอกาส รายได้ และอาชีพ จะพลิกโฉมประเทศไทย ให้มีอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก และทั้งหมดนี้จะเป็นการขยายผลให้ประเทศไทยสามารถเข้าสู่ระดับโลก เพราะร้านอาหารไทยมีทั่วโลก แต่ขาดเชฟคนไทย
ฉะนั้นโครงการนี้จะทำให้คนไทยเปิดประตูสู่โลกได้ เราทิ้งโอกาสของเรามานานมาก จึงเป็นโอกาสดีหลังสถานการณ์โควิด - 19 ที่จะสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับคนไทยและประเทศไทย ด้วยการสร้างอาชีพเชฟขึ้นมา และเป็นอาชีพที่มีรายได้ดีและสามารถต่อยอดในระดับต่างประเทศและสากลได้ ทั้งนี้ สำหรับประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่สนใจเข้าร่วมโครงการนี้สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook ของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว
นายชุมพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเป็นเชฟอาหารไทยที่ได้เดินทางไปกว่า 40 ประเทศทั่วโลก วันนี้ตนอยากมอบโอกาสให้กับทุกคน และอยากมอบโอกาสนี้ให้กับกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ก่อนที่จะส่งต่อไปถึงชุมชน ตนมั่นใจว่าครัวไทยจะไปสู่ครัวโลกได้
ขณะนี้ร้านอาหารไทยทั่วโลกประสบปัญหาขาดแรงงานที่มีฝีมือ ฉะนั้นสอดคล้องกับที่มาของโครงการในวันนี้ ตนรู้สึกดีใจที่ได้เห็นตรงกันในการสร้างเชฟอาหารไทย ตนอยากเห็นการนำพาวัฒนธรรม วัตถุดิบ และองค์ความรู้ต่างๆ ไปใช้ต่อยอด เพราะภายหลังจากสถานการณ์โควิด - 19 นั้น จะมีความต้องการในด้านนี้สูงมาก ตนขอขอบคุณทุกท่านที่ให้โอกาส รวมไปถึงทางโลตัสที่เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนโครงการนี้ด้วย
